หนึ่งในฝันร้ายที่สุดที่คนขับรถทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากเจอก็คือ ‘ยางบวม’ ปัญหาใหญ่ของยางที่อาจไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ หรือการใช้งานผิด ๆ ซึ่งสามารถเกิดได้กับทั้ง 4 ล้อของรถยนต์ นำไปสู่เรื่องเลวร้ายที่สุดอย่าง ‘ยางระเบิด’ ได้! บทความนี้ SaveTyre ขอแชร์ความเข้าใจของปัญหายางบวมที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พร้อมกับเรียนรู้วิธีการแก้ไขที่ถูกต้องเพื่อไม่ต้องเสียกับความปลอดภัยของตัวเองขณะขับรถ
อาการยางบวมคืออะไร อันตรายขนาดไหน
ถ้าคำถามคือ “ยางบวมอันตรายรึเปล่า ?” ก็สามารถตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่าอันตรายมาก ๆ เป็นอันดับแรก ๆ ของความปลอดภัยของผู้ขับขี่บนท้องถนนเลย เพราะยางบวมก็คืออาการผิดปกติของยางที่มีลักษณะของการโป่งพองและจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าก่อนตรงบริเวณของแก้มยางซึ่งเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุด โดยที่เราจะสามารถเห็นได้ตั้งแต่บวมเล็ก ๆ ไปจนถึงบวมชัดเจนใหญ่ออกมาเหมือนลูกมะนาว ซึ่งสาเหตุมาจากการที่โครงสร้างภายในของยางฉีกขาด ทำให้เหลือเพียงชั้นแก้มยางด้านนอก เกิดเป็นแรงดันขึ้นภายในทำให้ยางปูดบวมขึ้นมา
สาเหตุของการเกิดอาการยางบวม
และนี่คือสิ่งที่ต้องรู้ไว้ก่อนจะสายเกินแก้ สาเหตุของยางบวมเกิดได้จากหลายสิ่งอย่างที่ผู้ขับขี่อาจคาดไม่ถึงดังต่อไปนี้
🛞ยางเสื่อมสภาพ : สิ่งนี้สะท้อนถึงปัญหาที่ว่าผู้ขับขี่ดูแลยางไม่สม่ำเสมอพอ ไม่ว่าจะลืมเติมลมให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอยู่เสมอจนยางอ่อน ขาดการดูแลลืมเปลี่ยนยางฝืนขับต่อทั้ง ๆ ที่หมดอายุขัยไปแล้ว ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างของยางที่ทำงานหนักมากเกินลิมิต สะสมจนเกิดยางฉีกขาดขึ้นมา
🛞รถยนต์ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง : เรียกว่าขับขี่ถนนในบ้านเราการจะหลบหลีกหลุมบ่อให้พ้นในแต่ละวันนั้นเเสนยากเย็นเหลือเกิน และการได้รับการกระแทกแรง ๆ บ่อยเข้า ๆ ก็ส่งผลต่อโครงสร้างของยางเช่นกัน หรือขับรถชนขอบถนนไปจนถึงเหยียบคันเร่งเร็ว ๆ ตอนขึ้นลูกระนาด การฉีกขาดก็เกิดขึ้นได้นะ
🛞การซ่อมแซมยางแบบผิดวิธี : การหมั่นดูแลเช็คและซ่อมยางเบื้องต้นด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่เสมอไปเมื่อคุณซ่อมยางผิดวิธี เช่น เมื่องยางรั่วก็ปะยางเฉพาะด้านในท้องยางจนส่งผลให้มีความชื้นจากภายนอกเข้าสู่โครงยางจากรูรั่วด้านนอก จนเส้นลวดภายในเกิดสนิมแยกตัวออกจากกันจนยางบวมขึ้นมา
🛞การบรรทุกน้ำหนักมากเกิน : จากบทความวิธีการดูตัวเลขบนแก้มยาง ถ้าคุณเลือกยางที่รับน้ำหนักกับรถของตัวเองไม่ได้มาตรฐานพอ หรือขนของหนักจนเกิดจำเป็นอยู่บ่อยครั้ง โครงสร้างของยางก็จะเสียหายและบวมขึ้นมาในที่สุด
🛞สภาพแวดล้อมการใช้งาน : นอกจากถนนที่เป็นหลุมบ่อแล้ว การที่เราขับขี่อยู่บนเส้นทางที่ส่งผลต่อแก้มยางได้ชัดเจนอย่างถนนที่มีคราบน้ำมันอยู่บ่อย ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้โครงสร้างยางเสียหายได้เหมือนกัน
วิธีรับมือเมื่อเกิดอาการยางบวม
อย่างแรกเลย ยางที่บวมจะไม่มีทางยุบลงไปเอง เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดอาการยางบวมขึ้นมาในขณะที่กำลังขับขี่บนท้องถนน วิธีที่ดีที่สุดคือ ห้ามฝืนขับต่อโดยเด็ดขาด ให้หาที่ปลอดภัยเพื่อหยุดพักรถ และถ้าหากเตรียมยางฉุกเฉินมาก็ให้เปลี่ยนโดยทันที อย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่ายางนั้นจะเกิดบวมขึ้นมาไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม และสุดท้ายควรเอารถเข้าศูนย์ทันทีเพื่อตรวจสอบความเสียหายในจตุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะระบบเบรก ระบบเชื้อเพลิง
6 วิธีดูแลยางรถยนต์ ป้องกันยางบวมไม่ให้เกิดขึ้นอีก
สลับยางรถยนต์ตามระยะที่กำหนด : สิ่งนี้สำคัญมากและ SaveTyre ก็เคยเล่าไปในบทความก่อน ๆ แล้ว ทุกคนควรต้องสลับยางรถยนต์ทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร นอกจากเป็นการเช็คการบวมแล้ว ยังช่วยให้ยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
เติมลมยางให้เหมาะสม : นอกจากจะต้องหมั่นเติมยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอแล้ว การเติมให้ปริมาณเหมาะสมด้วยตามมาตรฐานที่ชนิดของยางและประเภทของรถระบุเอาไว้ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเรายิ่งปล่อยให้ยางอ่อนลมนานเท่าไหร่ โครงสร้างภายในก็จะยิ่งเสียหายได้เร็วเท่านั้น
เลือกใช้ยางที่มีคุณภาพ : การเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพเท่ากับการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะการเลือกยางที่ดีจะช่วยทั้งประสิทธิภาพที่ดีในการขับขี่ตามมาตรฐานความปลอดภัย และลดโอกาสที่ยางจะบวมลงได้เยอะมาก ๆ
ไม่บรรทุกน้ำหนักเกินกำหนด : เราทุกคนต้องรู้ลิมิตประเภทของรถตัวเองว่าสามารถบรรทุกสิ่งของและผู้คนได้ในระดับไหน การที่รถรับน้ำหนักมากจนเกินไปก็จะยิ่งทำให้ยางเสื่อมคุณภาพได้เร็ว เพราะฉะนั้นไม่ควรฝืนจนรถรับน้ำหนักไม่ได้
หลีกเลี่ยงการขับขี่ผ่านหลุมบ่อหรือถนนขรุขระ : แนะนำให้หลบหลีก หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านหลุม หรือถนนที่มีความขรุขระ เพราะว่าการที่ยางได้รับการกระแทกบ่อย ๆ สะเทือนไปถึงโครงสร้างภายในจนฉีกขาดขึ้นมา และบวมจนเสียหายในที่สุด
ควรมีชุดปะยางฉุกเฉินติดรถไว้ : ข้อสำคัญที่สุดคือ ยางบวมอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และจนมาถึงบรรทัดนี้ทุดคนก็คงจะเห็นสาเหตุนับไม่ถ้วน การมียางฉุกเฉินเผื่ออนาคตเอาไว้เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องมี เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเบื้องต้นอันสำคัญ
ปัญหายางบวมไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยใช่มั้ยครับ อ่านมาถึงตรงนี้ถึงแม้ว่าใครจะยังไม่เคยเจอการยางบวมระหว่างขับขี่ก็คงจะเห็นภาพแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นคำแนะนำที่ SaveTyre อยากบอกที่สุดคือหมั่นตรวจเช็คยางของคุณให้ดีเสมอ ตามเช็คลิสต์ที่บทความนี้เขียนเอาไว้ทั้งหมด ดีกว่าจะต้องมาวิตกและมาเครียดทีหลังเมื่อยางเกิดบวมจนสร้างความเสียหายต่อรถขึ้นมา