ในหนึ่งปี หลาย ๆ คนมักจะต้องมีช่วงเวลา ‘ไม่ได้ใช้รถยาว ๆ’ กันอยู่บ้าง ไม่ว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศ กลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด และไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม การจอดรถทิ้งเอาไว้นาน ๆ แบบไม่ได้สตาร์ทเลย อาจส่งผลเสียกับรถได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว และเพื่อให้รถที่ไม่ได้ใช้ มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา SaveTyre ขอพาทุกคนไปดูสิ่งที่ต้องรู้ เมื่อจอดรถไว้นาน ๆ ควรทำอย่างไรบ้าง
ปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่อจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ
หัวข้อแรก มาเริ่มจากลิสต์ปัญหากันก่อนเลย เพื่อให้รู้ว่าการจอดรถทิ้งเอาไว้เป็นเวลานานไม่ใช่เรื่องเล่นเลย เพราะส่งผลต่อการทำงานที่ (เคย) ปกติของรถด้วย
- รถสตาร์ตไม่ค่อยติด : หลังจากใช้เวลาพักผ่อนยาว ๆ อย่างเต็มที่ คงไม่สนุกแน่หากต้องมาเจอปัญหาสตาร์ทรถไม่ติดในวันแรกของการกลับไปทำงาน สาเหตุหลักมักมาจากแบตเตอรี่หมด เนื่องจากแบตรถยนต์นั้นต้องได้รับการชาร์จจากการใช้งานเป็นประจำ มันสามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง และต้องอาศัยกำลังไฟจากไดชาร์จเพื่อให้พร้อมใช้งาน และหากจอดรถทิ้งไว้นานโดยไม่มีการสตาร์ท ประจุไฟในแบตเตอรี่จะค่อย ๆ ลดลง จนทำให้สตาร์ทรถไม่ติดในที่สุดนั่นเอง
- แบตเตอรี่เสื่อม : สิ่งนี้เป็นผลต่อเนื่องกันมาจากปัญหาก่อนหน้า เมื่อแบตเตอรี่คายประจุไฟฟ้าออกมาเรื่อย ๆ ตอนที่เราไม่ได้ขับ แล้วปล่อยทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลานาน ตัวแบตก็จะเสื่อมจนไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด จากตอนแรกอาจจะแค่ติด ๆ ดับ ๆ สตาร์ทติดบ้างไม่ติดบ้าง ก็จะลามเป็นปัญหาที่ต้องเปลี่ยนแบตลูกใหม่กันเลย
- ยางเสื่อมสภาพ : ต่อจากแบตเตอรี่ก็เป็นเรื่องของ ‘ยาง’ การจอดรถทิ้งเอาไว้นาน ๆ รถของเราจะต้องแบกรับน้ำหนักของรถทั้งคันตลอดเวลาส่งผลให้ลมค่อย ๆ ซึมออกมา และผลลัพธ์ก็คือ ยางที่แบนและบิดเบี้ยว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อเรามีเหตุให้ไม่ใช้รถนานหลักเดือน จึงควรเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติสักหน่อย รวมถึงอาศัยให้คนรู้จักช่วยขับรถออกไปใช้บ้าง
- ของเหลวเสื่อมสภาพหรือรั่วไหล : มาต่อกันที่ของเหลวภายในรถยนต์ทั้งหมด น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเชื้อเพลิง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก ที่จะเสื่อมสภาพตามมา เพราะว่าความชื้นจากภายนอกที่เข้าไปสะสมในส่วนต่าง ๆ จนลดทอนประสิทธิภาพของของเหลวเหล่านี้ และอาจลามไปถึงการกัดกร่อนถังแก๊สจากข้างใน ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะการจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ ยังส่งผลให้องค์ประกอบระดับโมเลกุลของของเหลวส่วนอื่น ๆ แตกตัว จนชำรุดรั่วไหลออกมาได้อีกด้วย
- สิ่งมีชีวิตเข้าไปทำรัง : ใครจะรู้ว่าวันที่เราไม่ได้ใช้รถเลยจะมีน้อง ๆ สิ่งมีชีวิตแบบไหนเข้าไปอาศัยบ้าง หนู งู แมลง หรือจะตัวอะไรก็ตาม อาจจะเข้าไปทำรังสร้างครอบครัว หรือแทะสายไฟจนระบบเสียหายได้ เพราะฉะนั้นกลับมาใช้รถทุกครั้งถึงจะไปไม่ได้นานมาก ๆ ก็ควรเช็กเรื่องนี้ให้ดี ๆ ก่อนจะขับไปใช้งาน
- ฝุ่นจับ : ไม่มีคนรักรถคนไหนชอบรถที่สกปรกอยู่แล้ว ไหนจะฝุ่นจับ ไหนจะแดดเลียจนสีซีด ล้วนส่งผลต่อ Beauty Of Exterior รอบคันที่ไม่น่ามอง หากจำเป็นต้องจอดรถไว้นาน ๆ อย่าลืมที่จะหาผ้าคลุมรถให้พร้อมดูดีตลอดเวลากันด้วย
วิธีการดูแลรถยนต์เมื่อจอดรถในระยะเวลานาน ๆ
เมื่อรู้ปัญหาแล้ว มาดูกันว่ามีวิธีดูแล และป้องกันอย่างไร เพื่อให้รถยังคงอยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งานทันทีหลังจากจอดทิ้งไว้นาน ๆ มาดูเคล็ดลับการบำรุงรักษาที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ และลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อกลับมาใช้รถอีกครั้งกัน
- หาที่จอดรถให้เหมาะสม : เลือกจุดจอดรถที่ดีที่สุดเสมอเมื่อรู้ตัวว่าจะไม่ได้ใช้เลยเป็นเวลานาน เช็คลิสต์ที่สำคัญจะประกอบไปด้วย จอดในที่ร่ม อากาศถ่ายเท ไม่ตากแดดให้สีรถรวมไปถึงยางเสียหาย (หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ให้หาผ้าคลุมกันร้อนอย่างที่บอกไป) และอย่าจอดใต้ต้นไม้เด็ดขาด เพราะอาจจะเจอปัญหายางไม้หรือมูลของสัตว์ รวมถึงเศษกิ่งไม้ต่าง ๆ ที่ทำให้ทั้งความสวยงาม และการใช้งานของรถเสียหายได้
- ไม่ควรดึงเบรกมือทิ้งไว้ : อย่าได้ดึงเบรกมือเอาไว้เด็ดขาด เพราะจะทำให้ผ้าเบรคไปติดเข้ากับจานเบรก ดังนั้น ถ้าจอดในพื้นที่สภาพผิวมีความลาดเอียง ให้ใส่เกียร์ P เอาไว้ แล้วหาอิฐหรือก้อนหินหนัก ๆ มากั้นล้อเอาไว้จะปลอดภัยต่อรถมากกว่า
- ตรวจเช็คยางรถยนต์และลมยาง : นอกจากเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติ 2 - 3 PSI เพื่อให้พร้อมกับมาใช้ต่อแล้ว หลังจากนั้นเราควรหมั่นเช็กลมยางอยู่เสมอ เพื่อเติมลมยางค่าที่เหมาะสมทุกครั้งไม่ให้เกิดการยางแบนยางรั่วระหว่างใช้งาน
- สตาร์ทรถเป็นระยะ : ไม่วาจะอยู่บ้านแล้วไม่ได้ใช้รถนาน ๆ หรือว่าไปทำธุระไม่มีเวลาได้ใช้รถ ก็จำเป็นที่จะต้องสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างน้อย 2-3 วัน หรือ ทุก 2 สัปดาห์ ให้น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเชื้อเพลิงได้หมุนเวียน รวมถึงป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมสภาพด้วย และอย่างที่รู้กันว่าระบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของรถ ไม่ว่าจะสัญญาณกันขโมยหรือวิทยุ ก็ต้องมีไฟเลี้ยงตลอดเวลาไม่ให้เสีย
- บำรุงรักษาแบตเตอรี่ : ว่ากันด้วยการถนอมแบตเตอรี่ของรถ หากเราไม่ได้สตาร์ทเลย ก็ควรหมั่นถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อไม่ให้ตัวแบตคายประจุไฟฟ้าจนทำให้แบตหมด และเสื่อมสภาพ
- เติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ : ข้อนี้สำคัญ “ทำไมเราถึงต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง ?” ก็เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างระหว่างตัวน้ำมันเชื้อเพลิงและส่วนบนของถัง ซึ่งอาจส่งผลถึงความชื้นจนกลายเป็นน้ำเกาะด้านบนถังจนเป็นสาเหตุให้เกิดสนิมได้
- เช็กของเหลวก่อนจอดรถทิ้งไว้นาน : น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำในหม้อน้ำ หม้อพักน้ำ ของเหลวทั้งหมดของรถควรมีสถานะปริมาณที่สูงสุด เพื่อไม่ให้เกิดการระเหยจนแห้งสนิทและก่อให้เกิดสนิมภายในเครื่อง และอย่าลืมที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ถ้าต้องจอดทิ้งไว้นาน ๆ เพราะในน้ำมันเครื่องอาจจะมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ เจือปน เกิดเป็นตะกอน แล้วสารพวกนี้ก็จะมีสภาพเป็นกรดเข้าไปทำลายส่วนภายในขอวรถได้
- ล้างรถให้สะอาดทั้งภายใน และภายนอก : ข้อสุดท้าย พยายามทำให้รถมีสภาพคลีนที่สุดก่อนจะปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ๆ ไม่ว่าจะภายนอกที่อาจเปื้อนยางของไม้หรือสิ่งสกปรกแบบไหนก็ตามซึ่งอาจทำให้สีของรถเสียหายได้ รวมไปถึงภายในที่หากมีอาหารหรือขยะตกหล่นก็อาจส่งผลถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ และการรวมตัวของแมลงเล็ก ๆ ได้เหมือนกัน
บอกเลยว่าการจอดรถทิ้งเอาไว้นาน ๆ เป็นภัยเงียบมากกว่าที่ทุกคนคิด ไม่ใช่แค่ส่งผลระยะสั้นให้รถใช้งานได้ยากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงระยะยาวให้รถเสื่อมสภาพจนอาจจะใช้งานไม่ได้ในที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของยางรถยนต์ที่ต้องหมั่นสร้างรูทีนคอยเช็คอยู่เสมอ
และถ้าคุณอยากได้การตรวจสอบยางรถยนต์จากผู้เชี่ยวชาญที่เช็คละเอียดดูแลให้อย่างดีล่ะก็ SaveTyre ทุกสาขาทั่วประเทศพร้อมที่จะดูแล ตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ พร้อมให้คำแนะนำจากช่างคนเก่งประจำศูนย์ และถ้าเกิดว่าจะต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ขึ้นมา เราก็มีบริการติดตั้งให้ฟรีจากยางคุณภาพ ดีกรีรางวัลระดับโลกให้เลือกทุกรูปแบบ สามารถอ่านรายละเอียด วิธีการสั่งซื้อยางจาก SaveTyre ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ที่นี่เลย